search engine optimisation ตอนนี้มันเปลี่ยนแปลงไปมากจนกระทั่งคนที่ไม่ได้มีความสนใจและมีความกระหายในความรู้ความต้องการในการทำ seo จริงๆนั้นตามไม่ค่อยทันแล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดในธุรกิต ส่วนหนึ่งก็คือเวลา ไม่สามารถเรียกกลับคืนมาได้อีกแล้ว การทำ seo นั้นถือเป็นศาสตร์หรือเป็นศิลปะถือเป็นวิชาที่ต้องเรียนรู้จากการทำจริงๆไม่ใช่เพียงแค่อ่านมาแล้วว่าตามเขา
การที่เราจ้างคนมา 1 คนในการทำ seo ที่บริษัทเรานั้นเราอยู่ต้องเสียเงินขั้นต่ำ 50,000 บาทสำหรับคนที่เป็นระดับ specialist และคนที่เป็นระดับสเปเชียลลิสเฉยๆนั้นไม่มีความสามารถมากพอที่จะทำเว็บไซต์ให้คุณติดอันดับได้หรอกหากไม่มีเครื่องมือและมีความรู้ในตลาดนั้นอย่างถ่องแท้แท้จริง
เพราะถ้าเกิดว่าเขาทำเองเป็นทำไมเขาต้องมาทำงานประจำเพียงแค่ 50,000 บาท เขาสามารถที่จะทำเว็บไซต์ของตัวเองติดอันดับและหารายได้จากโฆษณาได้มากกว่านั้นอีกเยอะ สิ่งที่ผมอยากจะแนะนำเพื่อนๆสำหรับคนที่เพิ่งเริ่มต้นหรือคนที่เริ่มมาแล้วแล้วรู้สึกเสียเวลาเสียเงินไปกับการลงทุนแจ้งคนเข้ามานั่งทำงานแต่ไม่ได้ผลลัพธ์อย่างที่คาดหวังไว้ให้มาหาหนูทดลองเปลี่ยนความคิดใช้เอเจนซี่ที่มีความเชี่ยวชาญจริงๆในสายงานนี้ เพราะการทำ seo นั้นมันไม่ใช่แค่การเขียนบทความการทำ seo นั้นไม่ใช่เพียงทำเว็บไซต์ให้ดูดีดูถูกหลักเพียงเท่านั้น
seo นั้น มีรายละเอียดและ Detail มากมายและวิธีการต่างๆในการทำ seo นั้นเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาการที่เราจำเป็นต้องทำ Case Study เพื่อที่จะทดสอบทดลองวิธีการต่างๆในการทำ seo ทำให้เราสามารถรู้ได้ว่าวิธีการที่เราใช้อยู่นั้นถูกหลักหรือไม่วิธีการที่เราใช้อยู่นั้นส่งผล Negative กับเว็บไซต์เราหรือเปล่า
หากว่าเราไม่มี Case Study เราไม่มีการศึกษาและเรียนรู้ตลอดเวลานั่นก็เหมือนกับเรากำลังถอยหลังลงคลองไปเรื่อยๆ
วิธีการที่เราทำนั้นวนิดาใช้ได้แต่วันพรุ่งนี้อาจจะใช้ไม่ได้ก็ได้ เราจะรู้ได้อย่างไรว่าวิธีไหนที่เคยเป็นวิธีใส่ขาวแต่ตอนนี้กลายเป็นวิธี สายเทา ไปเสียแล้ว เราจะรู้ได้ก็ต่อเมื่อเราทำเยอะๆแล้วจะทำเยอะๆได้ก็ต่อเมื่อเรามี Case Study อยู่ในมือเยอะๆ
ผมคิดว่าจะเป็นการที่ดีกว่าในการใช้เอเจนซี่ที่มีความสามารถอยู่แล้วมีคนที่มีความสามารถอยู่แล้วมีวิธีการที่สามารถทำได้ดีอยู่แล้วจะเป็นการลดระยะเวลาในการผิดพลาดของเพื่อนๆครับ
